About Teddy

 
   
 

แรงบันดาลใจในการเป็นช่างภาพของผมเริ่มต้นมาจากพ่อ...

พ่อสอนให้ผมจับกล้องถ่ายรูปตั้งแต่อายุ 8 ขวบ ตอนนั้นยังไม่รู้จักว่าอาชีพช่างภาพเป็นอย่างไร รู้สึกสนุกตามประสาเด็กๆ เหมือนกับกล้องเป็นของเล่นชิ้นใหญ่สำหรับผม จากวันนั้นความสนใจทางด้านการถ่ายภาพเริ่มมีมากขึ้นๆ จนเป็นความรัก และความตั้งใจตั้งแต่เด็กๆ ว่า โตขึ้นอยากจะเป็นช่างภาพ แต่ถ้าบอกแล้วจะเชื่อไหมว่าผมจบมาทางด้านครุศาสตร์ เคยเป็นคุณครูสอนเด็กอนุบาลมาก่อน เป็นได้สักพักก็รู้แล้วว่านี่ไม่ใช่ตัวผม จึงบอกลาแล้วตามหาเส้นทางฝัน แล้ววันหนึ่งก็ได้เพื่อนรัก (ฟ้าดล ณ นคร) ชักนำเข้าสู่วงการช่างภาพจากความรักที่มีเป็นทุนเดิม บวกกับพื้นฐานทางด้านการถ่ายภาพ ทำให้ผมเริ่มจับงานถ่ายภาพอย่างจริงจัง ไม่ว่าจะเป็นถ่ายภาพบุคคล ถ่ายภาพโฆษณา ถ่ายภาพสถานที่ ถ่ายภาพอาหาร เก็บเกี่ยวประสบการณ์อยู่พักใหญ่ก็เริ่มรู้ทางของตัวเองแล้วว่าเป็นคนชอบถ่ายภาพบุคคลมากที่สุด เพราะการถ่ายภาพคนทำให้ผมมีความสุขเมื่อรู้ว่าคนที่ถูกถ่ายมีความสุข รู้สึกชอบในผลงานที่เราถ่ายให้ ผมว่าการถ่ายภาพคนมันทำให้ผมมีชีวิตชีวามากกว่าการถ่ายภาพอื่นๆ จึงตัดสินใจเปิดร้านเป็นของตัวเองในชื่อ Teddy Portrait เมื่อปี 1993 ที่สยามสแควร์ซอย 4

ตอนนั้นชื่อของ Teddy Portrait เริ่มเป็นที่รู้จักด้วยสไตล์การถ่ายรูปที่แตกต่าง เรียกง่ายๆ ว่าเรามีสไตล์เป็นตัวเอง สไตล์ของเราคือการดึงความเป็นตัวของตัวเองของลูกค้าออกมาให้ได้มากที่สุด บวกกับเทคนิคการจัดแสงที่ค่อนข้างคลาสสิค ทำให้รูปถ่ายมีมิติ เพื่อที่ว่ารูปนั้นจะได้ดูมีชีวิตชีวา ไม่ว่ารูปนั้นจะผ่านไปนานสักกี่ปี ก็ไม่รู้สึกว่าล้าสมัย และน่าเบื่อ และด้วยความที่งานของเราส่วนใหญ่เป็นงานขาว-ดำ ยิ่งทำให้รูปผมมีความคลาสสิค ต้องบอกว่ายุคนั้นมีเราเพียงเจ้าเดียวที่ถ่ายรูปขาว-ดำ ที่ยังคงใช้เทคนิคการล้างแบบสมัยก่อนที่เรียกว่า ดาร์ก รูม คือการล้างอัดในห้องมืด ซึ่งจะทำให้ได้ภาพที่มีคุณภาพ และสวยงามมากกว่า

ปีนี้นับเป็นปีที่ 13 แล้วสำหรับ Teddy Portrait และเป็นที่ปีที่ 10 สำหรับร้านที่สยามดิสคัฟเวอร์รี่ ที่ลูกค้าให้ความไว้วางใจกับผมอย่างดีเสมอมา และสิ่งหนึ่งที่ผมถือเป็นเสมือนรางวัลของการทำงานนั่นคือการได้รับเกียรติให้เป็นหนึ่งในคณะกรรมการตัดสินเวทีประกวดผู้หญิงสวยระดับประเทศ อย่างเวทีมิสไทยแลนด์เวิลด์ และมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส รวมถึงการประกวดสุดยอดนางแบบอีลิททอปโมเดล รวมถึงการได้ร่วมงานถ่ายภาพให้กับบรรดาสาวงามระดับประเทศเช่นนี้

ปัจจุบันแม้ว่าจะมีภาพเป็นพันเป็นหมื่นภาพที่ผ่านการกดชัตเตอร์จากผม แต่ผมก็ยังยึดมั่นในปรัชญาการทำงานที่มีตั้งแต่ต้นเสมอมา นั่นคือการทำงานด้วยความตั้งใจสูงสุด เพื่อคุณภาพงานที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้า และไม่ยุดยั้งที่จะคิด และคัดสรรค์สิ่งใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา เหมือนอย่างโปรเจคท์ที่ผมกำลังทำอยู่ในขณะนี้ คือการถ่ายภาพคู่รัก ที่ผมกล้ารับประกันได้เลยว่าคุณจะไม่มีทางได้ภาพที่สวยงามอย่างนี้จากที่อื่นๆ และความรัก และความมีชีวิตชีวาของคู่รักทุกคู่จะมาปรากฏอยู่บนภาพได้อย่างเป็นธรรมชาติที่สุด

 

 
  บทความจากหนั่งสือ - K Wisdom of Wealth: The Story of Smart Success - Download